คนเราบางทีการมีเงินทอง ทรัพย์สมบัติมากมายก็ไม่แน่ ว่าจะทำให้เรามีความสุขได้ บางคนบางครอบครัวพออยู่พอกิน หาเช้ากินค่ำแต่กลับมีความสุข เพราะครอบครัวเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ความเข้าใจกันของคนในครอบครัว
ยกตัวอย่างครอบครัวของ คุณอาของผมกับลูกสาวของท่าน ได้มีปัญหาทะเลาะกันอย่างรุนแรง
น้องสาวผมคนนี้เลยหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2553 หลายเดือนผ่านไปก็ยังไม่ยอมกลับ ไม่ติดต่อมาหา คุณอาผมก็มีอายุแล้ว ได้เกิดความทุกข์ใจเหลือประมาณ
ทุกครั้งที่โทรมาหาผมจะได้ยินเสียงท่านร้องไห้ทุกครั้ง
ไปหาพระมาก็หลายที่ไปถึงวัดดังทาง จ.ตราด ก็เงียบ
ไปหาพระที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงญานหยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร(หลวงพ่อยะ วัดท่าข้าม) ซึ่งคุณอาของผมเคารพนับถือและคุ้นเคยมากว่า
20 ปี ก็เงียบอีก ยังไม่กลับ ได้แต่เลข 2
ตัวตรง...ไม่ต้องกลับ...มาแทน
จนผมคิดว่าเราคงต้องทำอะไร
เท่าที่เราพอจะทำได้บ้าง จึงตัดสินใจไปกราบขอบารมีครูบาอาจารย์
ไปกราบขอพรให้น้องสาวกลับมาในเร็ววัน ก็ไปวัน อังคารที่ 20
เม.ย. ไปค้างกับหลวงปู่ท่านคืนนึง และในคืนนั้นเอง
ผมก็ได้ไปจุดธูปบอกกล่าวครูบาอาจารย์ทุก ๆพระองค์ ที่ตรงรูปหล่อพระแม่ธรณี
ขอให้ครูบาอาจารย์โปรดช่วยไปตามน้องสาวคนนี้กลับมาให้ได้ภายใน สามวัน เจ็ดวัน
ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ก็ขอให้ครูบาอาจารย์โปรดไป ดลบันดาลให้จิตใจรุ่มร้อนเหมือนไฟเผา
ให้ต้องรีบกลับมาหาแม่ผู้ชรา ให้ทนอยู่ไม่ได้ด้วยเทอญ
และด้วยความเชื่อมั่นเพราะเคยประจักษ์กับตัวเองหลายครั้ง
เรื่องการจุดธูป 5ดอก เทียน 2
เล่ม บอกกล่าวครูบาอาจารย์นี่
ผมเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าน้องสาวจะต้องกลับมาคราวนี้แน่นอน พอมาวันพุธ ที่ 21
ผมกลับมา ก.ท.ม. พร้อมกับเหรียญหลวงปู่สรวง และตะกรุดกันโรคระบาด มาถึงก็จัด ขันธ์
5 ขึ้นมารับหลวงปู่สรวงและครูบาอาจารย์
พร้อมทั้งจุดธูป 5 ดอก เทียน 2
เล่ม ตามเเบบฉบับ
ซึ่งธูปนั้นปกติผมก็จุดในกระถางธูป
แต่เทียนผมจะจุดบนพื้นโต๊ะหมู่บูชา โดยมีถ้วยตะไลทำเป็นเชียงเทียน และใช้เทียนเล่มเล็กที่สุดตลอด มันหมดเร็วดี
จะว่ามักง่ายก็ได้ แต่ก็ทำอย่างนี้มานาน เป็นสิบปีก็ปกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ครั้งนี้กลับมีอะไรเกิดขึ้น เพราะจังหวะนึงที่ผมสวดมนต์และบอกกล่าวเสร็จแล้ว
เหลือก็แต่รอให้ธูปเทียนหมด ก็ลงมาเอาของที่ข้างล่างซึ่งใช้เวลาก็ประมาณอึดใจนึงไม่เกิน 3 นาที แต่พอขึ้นไปที่ข้างบนห้อง ผมแทบช๊อค
ไฟไหม้ครับไฟไหม้โต๊ะหมู่บูชาผม
ลุกโชติช่วงชัชวาลย์แบบไม่ทีท่าว่าจะดับลง ในห้องตอนนั้นก็มีแต่แป๊ปซี่แม๊กซ์
ของโปรด กับน้ำมนต์ของ หลวงปู่ฯท่าน อีก2 ขวด
เลยตัดสินใจเอาน้ำมนต์ที่ใส่ขวดโค๊กลิตรเต็ม ๆขวด มาใช้ดับเพลิงซะ 1
ขวด....จัดไป

ใจขณะนั้นก็เกิดความรู้ความคิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติว่า หลวงปู่สรวง เทพดาบส ท่านอยู่ที่ไหนจะก่อกองไฟไว้เป็นสัญลักษ์ทุกที่ไป
......ตอนนั้นผมยังไม่แน่ใจเรื่องเกี่ยวกับไฟนี้
จึงมาลองค้นประวัติท่านดูก็เป็นว่า ท่านก่อไฟไว้ทุกที่ ที่ท่านจำพรรษาจริงๆ.....
หลังจากดับไฟและจัดการเก็บทุกอย่างเรียบร้อย
ใจผมยิ่งเชื่อมั่นว่าน้องสาวต้องกลับมา จะได้อยู่เย็นเป็นสุขกันซะที
เพราะหลวงปู่สรวง ท่านก็สะเดาะเคราะห์ให้แล้ว หลวงปู่ท่านและครูบาอาจารย์ก็เหมือน มาดลใจให้เอาน้ำมนต์ประพรมบ้าน เพราะตั้งแต่ได้น้ำมนต์ 2
ขวดนี้มาร่วม 10 กว่าปี ไม่เคยเอามาประพรมอะไรเสียที
จึงลงมาข้างล่างมานั่งคุยกับคุณอา ก็บอกเล่าเรื่องราวที่ไปกราบหลวงปู่ฯท่าน
และไปขอพรครูบาอาจารย์มาให้คุณอาทราบ ซึ่งคุณอาท่านก็ขอบอกขอบใจทั้งที่ตายังคลอไปด้วยน้ำตา จนเวลาผ่านล่วงเลยไป 3 วัน คือวัน เสาร์ ที่ 24
เม.ย. คุณอาผมโทรมาหาแต่เช้า
บอกน้องสาวผมโทรกลับมาหาแล้ว บอกคิดถึงแม่อยากกลับบ้าน
น้ำเสียงคุณอาผมฟังดูตื่นเต้นและดีใจมาก และผมก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของท่านอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ท่านไม่ได้ร้องด้วยความทุกข์ใจเหมือประมาณ เหมือนที่ได้ยินมาเกือบจะทุก
ๆ วันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แต่เป็นการร้องไห้ด้วยความดีใจและความสุขใจอย่างเหลือล้นแทน
และในวันอาทิย์ ที่ 25
นั้นเอง พ่อ แม่ ลูก ก็ได้เจอหน้ากันอีกครั้งหลังจาก
ไม่ได้เจอหน้าหรือได้ยินเสียงกันมาหลายเดือน กราบแทบเท้าขอบพระคุณครูบาอาจารย์ครับ
ไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้งครับ ภูมิใจเสมอที่ได้เป็นลูกศิษย์ หลวงปู่หงษ์
พรหมปัญโญ

หลังจากนั้นคุณอาของผม ท่านยังพูดเสมอ ๆ
ว่าหลวงปู่ฯท่าน ช่วยเรียกลูกสาวกลับมาให้
ป.ล. น้ำมนต์ของหลวงปู่ท่านนั้น เป็นน้ำมนต์ที่รวบรวมจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เอามาผสมเพิ่มเติมเสมอ ท่านยังเคยสั่งผมว่าถ้าไปที่ไหน ที่มีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์มีคนไปเอาเยอะๆ ให้เอามาถวายท่าน ท่านจะได้เอาผสมกับน้ำมนต์ในตุ่มที่ท่านทำไว้ ให้มีอานุภาพเพิ่มพูน จำได้ว่าผมเคยเอาน้ำมนต์จาก วัดระฆัง วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม และ วัดพระแก้ว ไปถวายท่าน หลวงปู่ท่านทำอะไรก็ทำด้วยความประณีตละเอียดอ่อน ทำให้ถูกต้องตามหลักวิชาของครูบาอาจารย์ ไม่ลัดขั้นตอนสุกเอาเผากิน
ป.ล. น้ำมนต์ของหลวงปู่ท่านนั้น เป็นน้ำมนต์ที่รวบรวมจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เอามาผสมเพิ่มเติมเสมอ ท่านยังเคยสั่งผมว่าถ้าไปที่ไหน ที่มีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์มีคนไปเอาเยอะๆ ให้เอามาถวายท่าน ท่านจะได้เอาผสมกับน้ำมนต์ในตุ่มที่ท่านทำไว้ ให้มีอานุภาพเพิ่มพูน จำได้ว่าผมเคยเอาน้ำมนต์จาก วัดระฆัง วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม และ วัดพระแก้ว ไปถวายท่าน หลวงปู่ท่านทำอะไรก็ทำด้วยความประณีตละเอียดอ่อน ทำให้ถูกต้องตามหลักวิชาของครูบาอาจารย์ ไม่ลัดขั้นตอนสุกเอาเผากิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น