....การจุดธูป 5
ดอก เทียน 2 เล่ม....
เพราะคิดว่าไม่อยากรบกวนอะไรครูบาอาจารย์ท่าน
เท่าที่ต้องคอยปัดเป่าความทุกข์ให้ลูกศิษย์คนอื่น ๆ ก็หนักพอแล้ว สำหรับผมให้เป็นไปตามสมควรเถอะครับ
ด้วยความถี่ในการร้องขอต่ำนี่กระมัง ครั้งนึงครูบาอาจารย์ท่านเลยทำให้ดู
ว่าท่านรับรู้ และสอดส่องดูแลเรา (ทุก ๆ คน) อยู่เสมอ
เมื่อปลายปี 2550
ปีนั้นผมอยู่เชียงใหม่ หน้าที่การงาน ชีวิตส่วนตัว ทุกอย่างก็ โอเค
จนกระทั่งวันนึง ได้รับโทรศัพท์สายหนึง
เป็นสายของเพื่อนซึงเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่ท่านคนนึง ชื่อ ป๋อง (หลาย ๆ
ท่านคงรู้จัก) ป๋องโทรมาบอกว่า หลวงปู่ท่านถามหา และหลวงปู่ท่านบอกว่าปีนี้
ท่านจะอยู่เป็นปีสุดท้าย (ตอนนั้นท่านป่วยหนักมาก อยู่ร.พ.บำรุงราษฏร์)
เมื่อทราบเนื้อความตามสานส์ ผมก็ร้อนใจมากมาย อยู่บ่าได้แล้วเวียงเจียงใหม่
ก็เตรียมตัวอพยพมา ก.ท.ม.ทันที ลาก่อน กาดวโรรส ลาก่อน สายน้ำปิง ลาก่อน ดอยสุเทพ
ลาก่อน ช่วงเวลาชีวิตที่แสนจะงดงาม แม้บางครั้งจะเศร้าไปบ้าง ลาก่อน...ฯลฯ
ระหว่างช่วงเวลา 1
เดือนที่เตรียมตัวจะมา ก.ท.ม. วันนึงด้วยความที่ครุ่นคิดถึงเป็นห่วงหลวงปู่ท่านอยู่ทุกวันทุกคืน ในคืนหนึ่งหลังจากเลิกงานผมก็คว้าเอา ธูป 5
ดอก และเทียนเล่มจิ๋วอีก 2 เล่ม ลงจากที่พักเดินตรงไปลานดินโล่ง
ๆ ที่ใช้เป็นที่จอดรถซึงอยู่ฝั่งตรงข้ามที่พัก
ไปถึงก็นั่งลงจุดธูปเทียนขึ้นมาตามแบบฉบับ แล้วท่อง " นะเมติ" 12 จบอธิษฐานบอกกล่าว "ขอครูบาอาจารย์" เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
ขอให้หลวงปู่ท่านหายในเร็ววัน และมีอายุยืนยาวต่อไปอีก
ขอครูบาอาจารย์ประสิทธิ์พรให้คำขอของลูกสำเร็จผลด้วยเทอญ เสร็จแล้วผมก็ยืนขึ้นหันหลังเพื่อจะกลับเข้าที่พัก
ในอึดใจนั้นฝนก็ได้ตกลงมาเป็นละอองบาง ๆ (เดือนธันวาฯเนี่ยนะ) ใจผมตอนนั้นคิดว่า
ธูป เทียน คงจะต้องดับแน่ ๆ ลงไป ก.ท.ม. คราวนี้คงต้องเสียน้ำตาแน่นอน
จึงไม่หันหลังกลับไปดูอีก ก็เดินกลับเข้าที่พัก นอนฟังเสียงฝนที่ตกเบาๆ ดังเปาะแปะๆ ในใจก็ครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ
มากมาย อยู่นานจนเผลอหลับไป พอเช้าตื่นขึ้นมาก็เตรียมตัวไปทำงาน พอขึ้นควบมอเตอร์ไซค์ได้ก็ค่อย
ๆ ขับออกไปตามทาง ด้วยในใจยังประหวัดนึกถึง ธูปกับเทียนที่จุดไว้เมื่อคืนนี้
ก็เลยอดใจไม่ได้ต้องแวะไปดูเสียหน่อย
ไปวนหาสักพักก็หาไม่เจอ เลยจอดรถลงมาค่อย ๆ
เดินดู ก็เจอก้านธูปกับขี้เทียน ที่เหลือเป็นร่องรอยว่ามอดไหม้หมดไปตั้งแต่เมื่อคืนวาน
ก็ทำให้แปลกใจ ฝนที่ตกถึงจะไม่แรงมาก แต่ก็พอที่จะดับธูป ดับเทียนเล่มจิ๋วที่ผมใช้จุดนี่ได้แน่นอน แต่นี่ธูปเทียนกลับไม่ดับ ยังติดไฟมอดไหม้จนเทียนหมดเล่มธูปหมดดอก ให้ได้เห็นอยู่กับสองตา
เลยพอจะใจชื้นมีความหวังขึ้นมาบ้างว่า หลวงปู่ท่านจะต้องอยู่กับเราต่อไปอีกนานตามที่ผมวิงวอนขอครูบาอาจารย์
แล้วเมื่อเวลาผ่านไปจนผมได้มา ก.ท.ม. ก็ได้อยู่ร่วมเฝ้าไข้หลวงปู่ท่านจนท่านหาย
และยังอยู่เฝ้าจนส่งท่านขึ้นรถกลับสุรินทร์
ซึ่งต่อมาเมื่อผมไปกราบหลวงปู่ท่านที่สุรินทร์ ก็เล่าเรื่องที่จุดธูปเทียนกลางฝนแล้วไม่ดับ ให้หลวงปู่ท่านฟัง
ท่านก็หัวเราะชอบใจ แล้วบอกว่า
....คนจะตายธูปเทียนก็ต้องดับ คนจะไม่ตายจุดธูปเทียนกลางฝนก็ไม่ดับ
แปลก ม๊าก มาก..
อีกเรื่องที่อยากเล่าไว้กันลืม ผมเคยถามหลวงปู่ท่านว่า
....หลวงปู่ครับหลวงปู่จะกลับมาเกิดอีกหรือเปล่าครับ...
หลวงปู่ท่านตอบว่า
....หลวงปู่จะกลับมาเกิดอีก ลูกศิษย์หลวงปู่เยอะชาตินี้โปรดได้ไม่หมด อีก 500 ปี หลวงปู่จะกลับมาเกิดอีก......
ผมจึงกราบเรียนท่านด้วยความเคารพ อย่างที่สุดเทิดทูนไว้เหนือเศียรเกล้าว่า
.....ถ้าหลวงปู่ลงมาเกิดอีกเมื่อไหร่ ผมขอตามมาเกิดด้วยนะครับ....
หลวงปู่ท่านก็ว่า
....อืม.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น