คลังบทความของบล็อก

วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ พระอาจารย์ผู้อยู่เหนือเศียรเกล้า 10






เกี่ยวกับการ "เห็น" ของหลวงปู่

      เมื่อครั้งที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ได้สร้างวัตถุมงคลที่สร้างจากกระเบื้อง
 หลังคาโบสถ์ของโบสถ์พราหมณ์ ซึ่งมีโบสถ์พระอิศวร โบสถ์พระนารายณ์ โบสถ์พระพิฆเณศวร มาบดผสมทำมวลสารเพื่อสร้างเป็น รูปเทพยดาเจ้าผู้ทรงมเหศักดิ์ทั้ง 3 พระองค์ คือพระอิศวร พระนารายณ์ พระพิฆเณศวร 





    และได้จัดพิธีมหาเทวาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่
 ครบถ้วนทั้งพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์ และยังได้อัญเชิญวัตถุมงคลที่จัดสร้าง ลงสรงอยู่ในน้ำพระพุทธมนต์-เทพมนต์จากพิธีสำคัญๆตั้งแต่ครั้งสร้างกรุง  เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์
เหลือจะกล่าว ทั้งยังถูกต้องตามตำรับพราหมณ์อย่างที่สุดเพราะท่านทั้งหลายที่เป็นเจ้าพิธี ล้วนแต่เป็นพราหมณ์หลวง เป็นผู้มียศศักดิ์ทางราชการทั้งสิ้นและยังสืบสายเลือดมาแต่ตระกูลพราหมณ์ผู้มีศักดิ์สูงทุกท่าน

http://www.devasthan.org/index.html




     หลวงปู่ท่านก็ได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีด้วย จำได้ว่าในชุดที่หลวงปู่ฯ ท่านเสกนั้นมีหลวงปู่เมตตาธรรมคุณ วัดโพธิ์เลื่อนท่านนั่งด้วยแต่ท่านเสกไม่นานประมาณ 30นาทีก็กลับ แต่หลวงปู่ท่าน เสกรวดจนจบพิธี พอเสกกันไปสักระยะ (2-3ช.ม.) ใกล้จะเสร็จพิธี ก็เกิดเสียงเหมือนอะไรถล่มลงมาจากทางโบสถ์พระพิฆเณศ ก็ทราบว่าเป็นกองกระเบื้องหลังคาที่ จะเอาไว้มุงโบสถ์ถล่มลงมา พิธีก็ดำเนินไปจนจบ




    เมื่อหลวงปู่ ฯ ท่านกลับไปพักที่บ้านท่านพระป๋องๆก็โทรมาเล่าความว่า หลวงปู่ท่านบอกว่า


....พิธีนี่พระอิศวรสูง88 ศอกเสด็จมาในพิธี มายืนคร่อมโบสถ์(เสกที่โบสถ์พระอิศวร) ในโบสถ์มีเทวดามาชุมมุมประสาทพรกันอยู่แน่นไปหมด และข้างนอกโบสถ์ ก็มีครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ มาล้อมโบสถ์พระอิศวรอยู่แน่นไปหมด มองไปทางไหนก็เห็นแต่ครูบาอาจารย์ แต่ครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ท่านไม่เข้ามาในโบสถ์เพราะผู้ประกาศโองการ (น่าจะพระราชครูวามเทพมุนี ) ไม่ได้ประกาศกล่าวอัญเชิญ พระสงฆ์ เชิญแต่เทวดา แต่ที่พระสงฆ์มาเพราะพระคณาจารย์ที่รับนิมนต์มาเสกได้อธิฐานจิตอัญเชิญมา ครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ท่านจึงทำให้ดูว่าท่านมาจริง ด้วยการทำให้กระเบื้องหลังคาโบสถ์ทางโน้นถล่มลงมา......



     เราได้ฟังเรื่องแล้วก็รู้สึกทึ่ง เรื่องอะไรที่ได้รับทราบเกี่ยวกับหลวงปู่ท่านล้วนแล้วแต่มหัศจรรย์ก็จริงแต่ลองนึกภาพว่า ในพิธีหลวงปู่ท่านได้เห็นอะไรบ้างก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงมันสุดที่จะบรรยายจริง และในวันต่อ ๆ มาผมกับท่านพระป๋องป๋องได้ไปที่โบสถ์พราหมณ์กันอีกครั้ง ก็ได้พบกับท่านพระราชครูฯก็เรียนความที่หลวงปู่ฯท่านเล่าให้ฟัง ให้ท่านพระราชครูฯท่านฟังต่อ ท่านก็ยอมรับว่า ท่านไม่ได้อัญเชิญพระสงฆ์ ท่านเชิญแต่เทวดาจริง ๆ เราก็นะหลวงปู่ของเราถ้าเรื่องนี้ไม่พลาดดอก 






   ครั้งหลังมาพอทางโบสถ์พราหมณ์จัดสร้างพระตรีมูรติทองคำถวายในหลวง ก็ยังได้นิมนต์หลวงปู่ฯ ท่านมาอีก และพอหลวงปู่ไปถึง ท่านพระราชครูฯ ก็เข้ามาเรียนถามหลวงปู่ท่านทันทีว่าพิธีที่จัดนี้ถูกต้องหรือยังคราวที่แล้วพลาดไป หลวงปู่ท่านก็ดูให้แล้วบอกว่า ..ถูกต้องแล้ว 


http://www.navaraht.com/forum/forum15/topic231.html  

 เรื่องนี้คิดอยู่นานว่าจะเล่าดีหรือเพราะต้องอ้างถึงท่านผู้มีกิตติคุณสูง และยิ่งด้วยยศศักดิ์แต่คิดแล้วก็เล่าเสียก็ดี แต่ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็ถามท่านพระป๋อง หรือใครใจกล้า ก็ไปเรียนถามท่านพระราชครูวามเทพมุนีดูได้ครับ แต่พึงรำลึกไว้เสมอว่าท่านเป็นผู้มียศและศักดิ์สูงส่งนะครับ





เรื่องเกี่ยวกับการเห็นของหลวงปู่ท่าน...ต่อ


     หลวงปู่ท่าน ๆ เคยเล่าให้ผมฟังว่าท่าน "เห็น" อะไร ๆ ที่คนทั่วไปไม่เห็นมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ ท่านว่าสมัยท่านยังเป็นเด็กยังไม่ได้บวชเณร ยามที่ต้องเดินผ่านป่าช้า เวลากลับบ้านคราวใดท่านต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่กล้ามองไปทางป่าช้า ผียืนอยู่ในนั้นเต็มไปหมด หรือตั้งแต่สมัยหลวงปู่ท่านยังเป็นสามเณร หัดนั่งสมาธิภาวนาพอออกจากสมาธิ ก็เห็นขบวนมวลหมู่วิญญาน แห่มาออกันมากมายตั้งแต่ที่ๆท่านนั่งภาวนา ยาวเหยียดไปจนถึงปากทาง อ.ปราสาท พอท่านถามเขาเหล่านั้นว่า

....ที่มาหาต้องการสิ่งใด.....

เขาเหล่านั้นก็ตอบว่า

.....ทำไมภาวนาแล้วไม่แผ่เมตตาจิตอุทิศส่วนกุศล หลังจากภาวนาให้กรวดน้ำแผ่เมตตาไปให้พวกเขาด้วย....

เมื่อท่านตั้งใจอุทิศกุศลด้วยเมตตาจิตไปให้ เขาเหล่านั้นก็พากับโห่ร้องด้วยความยินดีพากันยกขบวนกลับไป


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องต่างๆที่ท่านเล่าให้ผมฟัง ผมไม่ได้ไปเห็นกับท่านด้วย ผมลูกศิษย์หัวดื้อจึงได้แต่ฟังท่านไว้ด้วยความเคารพอย่างที่สุด



     จนกระทั่งวันนั้นก็มาถึง......
...ครั้งนึงที่วัดนก ซ.พาณิชย์ธนฯ ทางวัดได้นิมนต์หลวงปู่ฯ ท่าน มาให้คนทำบุญกับทางวัด หลังจากที่หลวงปู่ท่านไปถึงวัด ทางวัดก็ได้จัดที่พักให้ท่านพักผ่อน ระหว่างนั้นมีโยมคนนึงโทรมาที่วัดบอกว่า อ่านหนังสือเจอว่าทางวัดนิมนต์หลวงปู่ท่านมา เขาบอกว่าเขามีเรื่องให้หลวงปู่ท่านช่วย

     เรื่องคือพ่อของเขาได้ติดคุกแล้วเกิดไปเสียชีวิตในคุก เขาก็ได้ทำพิธีทางศาสนาครบทุกอย่างแล้ว แต่พ่อก็ยังมาเข้าฝันว่ายังออกจากคุกไม่ได้ เขาจึงอยากกราบเรียนปรึกษาหลวงปู่ท่าน ๆ ก็เลยบอกว่า

......ให้เอาดินไปวางตรงที่พ่อของเขาตาย แล้วให้นิมนต์พระไปชักบังสกุลตรงดินนั้น แล้วให้เอาดินมาให้ท่านที่วัดนก.......

    พอเวลาผ่านไปเมื่อถึงเวลาหลวงปู่ ฯ ท่านรับแขก คนก็เข้าแถวกันยาวเหยียด ผมก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ท่านคอยรับดอกไม้ที่คนเอามาถวาย อยู่ๆหลวงปู่ท่านก็พูดว่า

......นั่นมาแล้ว พ่อเขามาด้วย หมดเคราะห์แล้ว ......

     ผมก็ยัง..งง..อยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง แต่พอมองไปที่แถวคนที่มากราบท่าน ก็เห็นผู้ชายคนนึงถือถุงกระดาษกำลังเข้ามากราบท่าน พอเข้ามาถึงท่าน ก็ล้วงเอาของจากในถุงกระดาษออกมาถวาย ให้ท่านดูแล้วเรียนว่าหลวงปู่ ฯ ท่านว่า เขาเป็นคนที่โทรมาปรึกษาเรื่องที่พ่อเขาตายในคุกแล้วออกมาไม่ได้ ตอนนี้เขาทำตามที่หลวงปู่ท่านแนะนำแล้วครับ หลวงปู่ฯ ท่านจึงบอกเขาว่า
....พ่อเขาออกมาแล้ว ......

ชายผู้มีความทุกข์เรื่องพ่อ ก็ได้อาศัยเมตตาคุณของหลวงปู่ท่านเปลื้องทุกข์ให้ แล้วเขาก็ลากลับไปด้วยใจที่คลายทุกข์


    ส่วนผมพอเข้าใจว่าที่ท่านพูดในตอนแรกหมายถึงอะไร ก็ขนลุก(ขอโทษนะครับ)ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าครับ ไม่ใช่กลัวนะครับแต่ขนมันลุกเองครับ 

    และจากที่อีกหลาย ๆ คนประสบมา เช่น มีที่ดินแปลงนึงถูกคนนำของอาถรรพ์มาฝังไว้ กะว่าจะให้เกิดผลร้ายแก่เจ้าของที่ เขาจึงนิมนต์หลวงปู่ท่านไปแก้ไข เมื่อไปถึง ท่านไม่ต้องนั่งภาวนาบริกรรมอะไร พอท่านลงรถได้ก็ตรงไปชิี้จุดที่ฝังของอาถรรพ์และขุดขึ้นมาแก้ไขได้อย่างง่ายดาย 

      หรือเมื่อปี่ที่น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ก่อนที่น้ำจะท่วมหลายเดือน หลวงปู่ท่านทักเชิงถามพี่ท่านนึงอย่างมีความนัยสำคัญว่า 

......ซื้อเรือไว้หรือยัง ต่อไปต้องใช้เรือแทนรถนะ....

พี่ท่านนั้นเมื่อเจอหลวงปู่ท่านทักถามอย่างนี้ก็งงอยู่พักนึง จนกระทั่งน้ำท่วมใหญ่จึงหายงง

     อีกสักนิด มีพระลูกศิษย์ของหลวงปู่ท่านองค์หนึ่ง ได้เดินทางจากกรุงเทพมากราบหลวงปู่ที่สุสาน ก่อนจะเข้ามาสุสานท่านองค์นั้น ได้เกิดอาพาธคือหิวเต็มกำลังเจ็บท้องเจ็บใส้เกินทน จึงให้โยมที่มาด้วยไปซื้อไส้กรอกที่เซเว่นมาฉัน บรรเทาอาการอาพาธ

     เมื่อไปถึงสุสานท่านองค์นั้นก็เข้าไปกราบคาระวะหลวงปู่ท่าน พอเงยหน้าขึ้นหลวงปู่ท่านก็พูดว่า

......เดี๊ยวนี้อ้วนจัง ไป..ไป..เอากรวยดอกไม้แล้วมาปลงอาบัติ.....

     หลวงพี่ท่านนั้นก็สะดุ้งวาบ นึกในใจว่า

....โดนละ.....

      จากหลายๆเรื่องที่เจอกับตัวเองและศิษย์พี่ๆ น้องๆ ท่านอื่นๆ จึงเชื่อได้ว่าเรื่องการเห็นอะไร ๆ ของหลวงปู่ท่านนี่แน่นอน แม่นยำที่สุดครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น